.

.
"สุขา สังฆัสสะ สามัคคี ความพร้อมเพรียงของหมู่คณะ ทำให้เกิดสุข"
ข่าวประชาสัมพันธ์



ขอประกาศเลิกอัฟเดทข้อมูลที่Blogแห่งนี้
สามารถเข้าไปใช้งาน website อย่างเป็นทางการได้ที่
http://www.tsa-bhu.org/


ข่าวเด่น

* ขอแสดงความยินดีแด่.. พระครูใบฎีกา ดร. มานิตย์ เขมคุตโต , พระมหา ดร. ธีรชัย ปุญฺญชีโว , พระ ดร. ราเชนทร์ วิสารโท ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกที่ B.H.U. ในปี ๒๕๕๓






* สมาคมพระนักศึกษาไทย มหาววิทยาลัยเมืองพาราณสี ร่วมใจกันลงอุโบสถ ที่วัดไทยสารนาถ พร้อมเจริญพระพุทธมนต์ ณ ธัมเมกขสถูป เนื่องในวันมาฆบูชา วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์





สมาคมพระนักศึกษา นักศึกษาไทย มหาวิทยาลัยเมืองพาราณสีได้ร่วมใจกันจัดงานประเพณีสงกรานต์ "๑๓ เมษา เสนคุปต้ามหาสงกรานต์" ประจำปี ๒๕๕๓ ณ หอเสนฯ โดยมีคณาจารย์ทางมหาลัย และต่างชาติเข้าร่วมนับร้อยชีวิต ในวันที่ ๑๓ เมษายน ที่ผ่านมา





* พระนักศึกษา นักศึกษาไทย มหาวิทยาลัยเมืองพาราณสี ร่วมใจกันจัดกิจกรรมพิเศษ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ (๕ ธันวามหาราช) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล





* ๕ ธันวามหาราช ขอเชิญร่วมถวายภัตตาหารเพลพระนักศึกษาไทย และนานาชาติ จำนวน ๘๒ รูป และร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรได้ที่ หอเสนคุปตลอล์จ ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒





* กฐินสังฆประชาสามัคคี ณ หอเสนคุปตาลอจ์ด มหาวิทยาลัยบาณารัส ฮินดู วันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๒ นำโดย พระธรรมวรนายก เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา


รสชาติที่ไม่ขาดหาย

สายลมที่พัดผ่านมาทางหน้าต่างเบาๆ ในเวลาที่ดึกสงัดเมื่อพัดลมหยุดหมุนก็แสดงว่าไฟดับคงมีแต่ความเงียบวังเวงเพียงอย่างเดียวเท่านั้นความมืดมิดสนิทเหมือนกับโดนปิดตามองไม่เห็นอะไรเลย มือคว้าหาเทียนที่พอให้แสงสว่างได้พอบรรเทาความวังเวงและความมืดมิด เมื่อลมแรงพัดกระทบกับหน้าต่างที่เปิดแง้มไว้ดังกึก ๆ เหมือนมีคนมาเคาะก็ทำให้น่าคิดไปต่างๆ แล้วด้วยธรรมชาติของคนทำให้หัวใจไม่อยู่กับที่มันเริ่มมากระทบแล้วเริ่มถามว่า อะไร ทำไม ใคร วนเวียนในสมองที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ได้ไหลออกมาทำให้นอนไม่หลับ คิดแล้วได้ประโยชน์หรือไม่ได้แต่มันห้ามไม่ได้นะ อีกซีกของสมองบอกว่าหาปากกามาแล้วอีกด้านผ่านสายตามองหากระดาษที่เหลือจากการเขียนงานที่เหลือพื้นที่เพียงเล็กน้อยมาละเลงความสะใจว่าไปนั้นหรือ
เสียงเด็กร้องไห้จากข้างบ้านพักทำให้ความคิดมันพุดมาอีกรอบเด็กก็คือเด็กอยู่ดีนั้นเอง จะเอาอะไรมาก กับเรื่องแบบนี้ใจมันก็วุ่นวายมาอีกรอบ พอคิดไปมาตามันสว่างอีกรอบสมองก็สั่งไปที่ใจอีกรอบว่าพอได้แล้วคิดมากไม่มีประโยชน์เรื่องธรรมดาแบบธรรมชาติอยู่แล้วมีอะไรอีกแต่จะห้ามความคิดคงไม่ได้มันไม่มีเครื่องบังคับนอกจากเราเอง ช่างมันความคิดไม่ผิดแน่ถ้าคิดดี แต่อย่าคิดมากไม่ดีแน่ มีคนส่วนมากบอกว่าคนที่คิดมากนั้นบ้าคงไม่จริงหรือคนบ้าไม่คิดอะไรเพราะที่เราเห็นเขาทำได้ทุกอย่างเขาคงไม่คิดมากแน่ แต่คนที่คิดมากทำได้อย่างเดียวแต่นี้นี้คือความต่างหรือเปล่า แต่เมื่อนั่งอยู่นานสายตายสอดส่องไปที่หิ้งพระที่แสงเทียบกระทบกับพระพักต์ของพระพุทธรูปคล้ายว่าเป็นทางที่ดีว่าพระพุทธองค์ทรงสอนเราเรื่องความจริง แต่เรายังหนีไม่พ้นเหมือนทำใจได้สักพักใหญ่พลางสั่งตัวเองให้หยุดดีกว่าเพราะไม่น่าคิดเลย เหมือนประหนึ่งว่าพอ แ ต่ไม่ขาดหาย เช่นกับแสงเทียนที่จุดในเวลาที่ไม่มีลมคล้ายจะสว่างได้ แต่เมื่อมีลมแรงมาพัดเข้าก็เหมือนกับจะดับในทันที ชีวิตคงเป็นแบบนี้มีลงขึ้นเสมอมองดูแล้วคงไม่แปลก หรือถ้าว่าชีวิตเป็นเพียงสิ่งที่ดำเนินตามแบบเท่านั้นหรือว่า จะเป็นแบบรางรถไฟที่รอการบดขยี้จากล้อเหล็กเหมือนไม่สะทกสะท้านเพียงแค่การเวลาเท่านั้นเองนี้หรือชีวิต การบดทับครั้งแล้วครั้งเล่าของรถที่หนักคงไม่ต่างจากชีวิตที่ทรหดต่อสู้ตลอดเวลา แต่นี้คนไม่ใช่รางรถไฟเหล็กกล้า แค่ลมมากระทบก็บอกได้ถึงความรู้สึกว่าเป็นอย่างไร หลายชีวิตที่พบกับความจริงแต่หารู้ไม่ว่าคือความจริง เพราะตื้นเช้ามาก็พบกับแสงอาทิตย์ที่สดใสในวันฟ้าสด บ้างครั้งฟ้าครึ้มก็มีแสงจางๆ แต่ทุกอย่างมีความต่างกันมันไม่แน่นอน เคยมีคำกล่าวที่บอกเสมอว่า ทุกชีวิตที่ผ่านมากาลเวลาที่ผ่านไปบ้างสิ่งเป็นไปได้ บ้างครั้งเป็นในสิ่งที่ไม่อยากจะให้เป็น เพราะเมื่อมีความสุขก็จะอยู่นานๆ แต่ถ้ามันมีบางอย่างมาขัดก็ไม่พอใจเลย คนเราเกิดในโลกไม่มีใครที่สามารถบอกได้ว่าจะมีความสุข แม้แต่พระพุทธเจ้ายังไม่บอกเลย การดำเนินชีวิตไม่ใช่การทำสงครามแต่เพียงแค่ต้องการชัยชนะในชีวิตเท่านั้นเอง แม้แต่การทำสงครามก็ไม่ใช่ชีวิตของสงครามแต่ชัยชนะคือจุดจบของสงครามเหมือนจุดจบของชีวิตคือความตายในขณะที่กำลังดำเนินชีวิตทุกท่านพบกับอะไรหลายอย่างการเผชิญหน้ากับโลกของความจริงที่เป็นเรื่องธรรมดาที่ดาของมนุษย์ มีน้อยคนนักที่บอกว่าปกติกับทุกเรื่องเพียงแค่การแสดงออกมามากน้อยต่างกันเท่านั้นเอง มีบ้าที่บอกว่าเป็นสมดุลของชีวิต หรือเพียงแค่ปัดอารมณ์ความวุ้นว่ายเท่านั้นเอง แต่ก็ยังดำเนินในเส้นทางเดียวกันเท่านั้นเอง เมื่อชีวิตที่ดำเนินในเส้นทางที่เป็นเส้นตรงและราบเรียบก็สบายแต่การดำเนินที่ไม่รู้ว่าข้างหน้านั้นมีหลุม ก็พอที่จะหาทางแก้ไข้หรือเลี้ยงได้ แต่ถ้าไม่มีการเตรียมพร้อมคงล้มหรือเจ็บได้โดยไม่รู้ตัว
ทุกชีวิตล้วนมีความหมาย
เกิดตายเป็นสิ่งจริงแท้
ทุกๆอย่างล้วนต้องฝันแปร
เพียงแค่รอวันและเวลา
บ้างครั้งอยากเป็นเช่นเขา
ก็เลยทักเดาเอาเองว่า
ต้องมีต้องเป็นคืออวิชชา
ไม่รู้เลยว่าตัวเองคือใคร
เพียงแค่พอใจใช่ไหมเล่า
เป็นเพียงตัวเราหรือไฉน
ไม่ต้องมองคนอื่นว่าเป็นไง
ตัวเราไซ้ให้มองทั่วรู้ตัวเอง

Comments :

0 ความคิดเห็น to “รสชาติที่ไม่ขาดหาย”

แสดงความคิดเห็น

 

ผู้ติดตาม

ออนไลน์หน้านี้

free counters